สินเชื่อ ถ้าจะแปลกันแบบบ้านๆคำว่า "สิน ก็คือ เงินทอง สินทรัพย์" ส่วนคำว่า "เชื่อ ก็คือเชื่อ เชื่อใจ" เมื่อนำมารวมกันก็จะหมายความว่า "เชื่อใจเรื่องเงินทอง ทรัพย์สิน เลยให้เธอยืม" ง่ายจัง เมื่อให้เธอยืมแล้ว เธอก็ต้องคืน แล้วก็ต้องมีอะไรตอบแทนให้พอสมน้ำสมเนื้อกัน ของฟรีไม่มีในโลกว่างั้น ผลตอบแทนที่ว่า ก็คือ ดอกเบี้ย
สินเชื่อ เค้าว่า มนุษย์เรารู้จักมานานมากแล้ว เป็นพันปี ประเทศแรกๆ ที่มีระบบสินเชื่อ หรือการให้ยืมเงินแล้วคิดดอกเบี้ย กำหนดงวดการชำะ ว่ากันว่าเป็นชาวอิสราเอล ตอนแรกแปลกใจมากเลย ไปลองอ่านประวัติศาสตร์มาแบบผ่านๆ ชนชาติอิสราเอล เป็นนักคิดและนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโลก หลายคน เช่น (นายแดเนียล เช็ชต์แมน นักวิทยาศาสตร์ชาวอิสราเอล เป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาเคมี ประจำปี 2011) เวลาชาวอิสราเอล ไปอยู่ประเทศไหน มักจะมีอาชีพเก็บภาษี พ่อค้า คำนวณเงินต่างๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะมีคนไม่ชอบ และทำให้มีคนใจร้าย ทำร้ายชาวยิวในสงครามโลก และระบบธนาคารปัจจุบัน หรือการคิดดอกเบี้ย มีกำเนิดมาจากชาวอิสราเอล
รูปแบบของสินเชื่อ
เมื่อก่อนจะให้หยิบยืมเงิน หรือสิ่งของ แล้วค่อยทะยอยใช้ทีหลัง ปัจจุบันแม้ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปมาก แต่คงลัษณะเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่เรียกว่านวัตกรรมดีกว่า รูปแบบสินเชื่อก็มีหลายแบบ ยกตัวอย่าง เช่น
- สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว จะเป็นสินเชื่อที่ให้กู้ไปเป็นก้อนที่เดียว แล้วผ่อนใช้คืนทีหลัง เช่น ผ่อนซื้อบ้าน สร้างโรงงาน เป็นต้น ดอกเบี้ยก็จะต่ำกว่าแบบอื่น
- สินเชื่อเงินกู้ระยะสั้น จะเป็นสินเชื่อระยะสั้นส่วนใหญ่ไม่เกินสามปี มีรูปแบบการให้ใช้เป็นวงเงิน ใช้คืนแล้ว อาจจะเอามาใช้อีกได้ เช่น วงเงินเบิกเกินบัญชี หรือ ชาวบ้านเรียกว่า "โอดี" เงินกู้ระยะสั้นเหมาะสำหรับการใช้หมุนเวียนในกิจการ หรือเป็นเงินสำรอง ดอกเบี้ยจะสูงกว่าแบบแรก
หลักๆ สินเชื่อมีแค่ 2 ประเภท แต่ปัจจุบันมีเยอะจนงง โดยเดี๋ยวนี้มีการแยกสินเชื่อบุคคลออกมา เป็นบัตรเครดิต บัตรเงินสด เงินกู้ส่วนบุคคล โดยไม่มีหลักประกัน แล้วก็นั่นเอง ดอกเบียแพงมหาโหด และกำลังเป็นปัญหาในปัจจุบัน
ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/kidstownstudio/home/bank-kids/sin-cheux
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น